วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555

หนี้ยุโรปพ่นพิษ! รายใหญ่ชะลอซื้อกิจการ โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์





นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ความต้องการสินเชื่อรายใหญ่ในครึ่งหลังของปีมีไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลสถานการณ์ในยุโรป ซึ่งวิกฤติหนี้ในยุโรปที่ยังไม่มีทางออกที่ชัดเจนทำให้โอกาสในการไปซื้อ กิจการในต่างประเทศแม้จะยังมีอยู่ แต่ก็อาจจะชะลอลง เพราะผู้ประกอบการต้องพิจารณาอย่างรอบคอบมากขึ้นและติดตามสถานการณ์อย่าง ใกล้ชิด
ทั้งนี้ ในช่วงที่เหลือของปีธนาคารคาดว่าจะมีความต้องการของลูกค้ารายใหญ่ในการซื้อ หรือควบรวมกิจการ (Mergers and Acquisitions) อีกประมาณ 2-3 ราย ที่เป็นการออกไปลงทุนในภูมิภาค
"ผู้ประกอบการไทยเก่ง การตัดสินใจลงทุนจะดูอย่างรอบคอบ เพราะเราเจอปัญหามาหลายรอบแล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ต้องมีปัญหาทุกปี อย่างปีก่อนก็มีน้ำท่วม"

ทางด้าน นางสาววรดา ตั้งสืบกุล ผู้ช่วยผู้จัดการ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ในขณะนี้ธุรกิจขนาดใหญ่หลายแห่งต่างรอดูสถานการณ์วิกฤติหนี้สาธารณะในกลุ่ม ประเทศยุโรปทำให้ความต้องการออกไปซื้อกิจการชะลอตัวลง แต่เชื่อว่าในปีหน้าจะเห็นแนวโน้มการฟื้นตัวดีขึ้นและมีความต้องการซื้อ กิจการเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์จะเข้าสู่ช่วงต่ำสุดแล้ว นอกจากนี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำยังเป็นปัจจัยหนุนการลงทุน อีกด้วย เพราะจะมีต้นทุนการซื้อกิจการที่ลดลงเป็นโอกาสของธุรกิจไทย ไปลงทุนในธุรกิจพลังงาน อาหารและเกษตรแปรรูป ทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา
ด้าน นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า ในช่วงที่เหลือของปีธนาคารมีลูกค้าที่ต้องการซื้อหรือควบรวมกิจการอีกประมาณ 7 ราย คิดเป็นมูลค่ารวม 2-3 หมื่นล้านบาท โดยมาจากธุรกิจอุตสาหกรรมและบริการ ส่วนใหญ่เป็นการออกไปลงทุนในต่างประเทศของนักลงทุนไทยออกไปลงทุนต่างประเทศ ซึ่งนอกจากการควบรวมกิจการแล้ว ธนาคารยังเข้าไปเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับบริษัทจดทะเบียนที่ต้องการออก กองทุนอสังหาริมทรัพย์อีกประมาณ 1-2 กอง
ในขณะนี้เริ่มมีแนวโน้มว่าธุรกิจขนาดกลางจะมีความต้องการออกไปลงทุนและ ซื้อกิจการในต่างประเทศมากขึ้น จากเดิมที่จะเป็นกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่เท่านั้น
ในส่วนของธนาคารหลังจากที่กลุ่มซีไอเอ็มบีได้เข้าไปซื้อกิจการ Royal Bank of Scotland (RBS) ทำให้ธนาคารมีศักยภาพในการให้บริการธุรกิจวาณิชธนกิจเพิ่มมากขึ้น โดยมีเจ้าหน้าที่ทางด้านวาณิชธนกิจเข้ามาเสริมทีมงานอีกประมาณ 40 คน มีความพร้อมในการให้บริการซื้อกิจการของธุรกิจขนาดใหญ่ เพื่อรองรับการรวมตัวของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น